21 เมษายน 2024 : 21.30 – เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
การแข่งขันฟุตบอเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ โคเวนทรี ซิตี้ จากแชมเปี้ยนชิพ ทะลุเข้ามาถึงรอบนี้ โดยจะได้พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากพรีเมียร์ลีก ห่างกันอยู่ 1 ดิวิชั่นด้วยกัน
มองไปยังสถานการณ์ของโคเวนทรีในเวลานี้ รั้งอยู่ในอันดับที่ 8 ของตารางคะแนนแชมเปี้ยนชิพ เก็บได้ 63 คะแนน ประตูได้เสีย +14 จากการลงสนาม 42 เกม ยังมีลุ้นทำอันดับเพื่อเพลย์ออฟเลื่อนชั้น
ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 7 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก มีอยู่ 50 คะแนน ลูกได้เสีย -1 จากการลงสนาม 32 เกม ลุ้นหนักสำหรับการไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า เมื่อเหลือเกมลีกให้เล่น 6 เกมเท่านั้น
ผลงานการเล่นของโคเวนทรี 5 เกมท้าย (ชนะ 2 , แพ้ 3) ชนะฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ และลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ , เซาแธมป์ตัน และเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ใน 5 เกมนี้ ทำได้ 7 ประตู เสีย 9 ประตู
มาร์ค โรบินส์ ไม่สามารถใช้งานทาซึฮิโระ ซากาโมโตะ และเจมี่ อัลเลน ในเกมนี้ได้ เนื่องจากบาดเจ็บ นอกนั้นพร้อมเล่นในระบบ 4-3-1-2 แนวรุกหวังไปกับคัลลั่ม โอฮาเร่ , ฮาจิ ไรจ์ท และเอลลิส ซิมม์ส
ผลงานปีศาจแดง 5 เกมท้าย (เสมอ 4 , แพ้ 1) เสมอลิเวอร์พูล 2 เกม ซึ่งเป็นการพบกันในเอฟเอ คัพ และพรีเมียร์ลีก เสมอกับเบรนท์ฟอร์ด และบอร์นมัธ และพ่ายแพ้ต่อเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ใน 5 เกมนี้ ทำได้ 12 ประตู เสีย 12 ประตู
เอริค เทน ฮาก หมดสิทธิ์ใช้งานไทเรลล์ มาลาเซีย , ลิซานโดร มาร์ติเนซ , ลุค ชอว์ , วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ , ราฟาแอล วาราน , จอนนี่ อีแวนส์ และอองโทนี่ มาร์กซิยาล ในเกมนี้ เนื่องจากบาดเจ็บอยู่เหมือนเดิม
แต่ตัวความหวังแดนหน้ากับระบบ 4-2-3-1 ยังเป็นอเลฮานโดร การ์นาโช่ , บรูโน่ แฟร์นานเดส , มาร์คัส แรชฟอร์ด และราสมุส ฮอยลุนด์
แมนฯ ยูไนเต็ด มาเหนือกว่าโคเวนทรีอยู่แล้ว แต่การเข้ามาถึงรอบนี้ โอกาสในการเข้ารอบต่อไปไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ จัดหนักจัดเต็มเพื่อหวังเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเหมือนกัน
ด้วยเรทราคาที่เปิดมา 1/1.5 ดูจะสูงเกินไปหน่อย เมื่อเล่นที่สนามกลาง ทำให้ไม่มีทีมไหนได้เปรียบกว่ากันเท่าไหร่ ยิ่งผลงานของแมนฯ ยูไนเต็ด ออกทะเลหลายเกม เกมนี้ไม่ง่าย ฟันธงรองโคเวนทรีดีกว่า อย่างมากแพ้ไม่ขาด