ฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ประจำวันที่ 7 เมษายน 2024 มีลงแข่งขัน 4 คู่ โดยไฮไลท์สำคัญคือการพบกันของสองทีมใหญ่อย่างแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของท่าเรือ เอฟซี มาดูความพร้อมของทุกทีมได้เลย
ลำพูน วอริเออร์ vs โปลิศ เทโร
เวลา : 17.30
สนาม : สนามกีฬากลางจังหวัดลำพูน
ประเดิมคู่แรกในเวลา 17.30 น. ลำพูน วอริเออร์ อันดับ 7 ของตารางคะแนน เตรียมเปิดบ้านเพื่อเจอกับโปลิศ เทโร อันดับ 16 หรือบ๊วยของลีก
ปัจจุบันเจ้าบ้านเก็บได้ 29 คะแนน ประตูได้เสีย +0 จากการลงสนาม 22 เกม มีคะแนนห่างจากโซนตกชั้นเพียง 6 คะแนน ต้องการคะแนนเพื่อการันตีรอดตกชั้น
ส่วนเทโรมีอยู่ 20 คะแนน ลูกได้เสีย -27 จากการลงสนาม 23 เกม มีคะแนนห่างจากโซนปลอดภัย ไม่ตกชั้นเพียง 3 คะแนน ยังพอมีความหวังในการรอดตกชั้น
ผลงานเจ้าบ้าน 5 เกมท้าย (ชนะ 1 , เสมอ 2 , แพ้ 2) เกมล่าสุดเพิ่งจะบุกไปแพ้นครปฐม เอฟซี ด้วยสกอร์ 1-0 โดยเกมนี้ทีมจะได้เนเกบา ปินโต และออสการิ เกกโกเนน กลับมาเป็นตัวเลือกในการลงสนามอีกครั้ง
ทีมเยือนไม่ชนะใครมาแล้ว 10 เกมติดต่อกัน (เสมอ 2 , แพ้ 8) เกมล่าสุดบุกไปโดนขอนแก่น ยูไนเต็ด ถล่มด้วยสกอร์ 4-0
เทโรยังไม่สามารถใช้งานสินทวีชัย หทัยรัตนกุล และอุกฤษณ์ วงศ์มีมา ในเกมนี้ได้เหมือนเดิม เนื่องจากบาดเจ็บ แต่จะได้ธีรวุธ ชูโลก พ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม
แบงค็อก ยูไนเต็ด VS การท่าเรือ เอฟซี
เวลา : 18.00
สนาม : สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คู่ที่ 2 แข่งขันในเวลา 18.00 น. เมื่อทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อันดับ 2 ของตารางคะแนน จะได้เล่นในรังเพื่อดวลกับการท่าเรือ เอฟซี อันดับ 3 เป็นสองทีมที่กำลังขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วย
ปัจจุบันเจ้าบ้านเก็บได้ 48 คะแนน ประตูได้เสีย +28 จากการลงสนาม 22 เกม ส่วนทีมเยือนมีอยู่ 45 คะแนน ลูกได้เสีย +26 จากการลงสนาม 23 เกม ต้องการคะแนนเหมือนกันเลย
ฟอร์มการเล่นของแบงค็อก 5 เกมท้าย (ชนะ 3 , แพ้ 2) เกมล่าสุดบุกไปเอาชนะราชบุรี เอฟซี ด้วยสกอร์ 2-1 เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งานฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ส่วนเอเวอร์ตัน กอนซาเวส ติดโทษแบน
ผลงานของการท่าเรือ 5 เกมท้าย (ชนะ 2 , เสมอ 3) เกมล่าสุดเปิดบ้านเฉือนสุโขทัย เอฟซี ด้วยสกอร์ 1-0 โดยทีมเยือนไม่มีรายชื่อแฮมิลตัน โซอาเรส ลงสนาม เนื่องจากยังต้องพักฟื้นอาการบาดเจ็บต่อไป
ชลบุรี เอฟซี VS ราชบุรี เอฟซี
เวลา : 18.30
สนาม : ชลบุรี เอฟซี ยูทีเอ สเตเดี้ยม
การแข่งขันคู่ที่ 3 คิกออฟ 18.30 น. ชลบุรี เอฟซี อันดับ 12 ของตารางคะแนน จะได้เล่นในบ้านเพื่อเจอกับราชบุรี เอฟซี อันดับ 6 ของลีก
ปัจจุบันเจ้าบ้านเก็บได้ 25 คะแนน ประตูได้เสีย -10 จากการลงสนาม 23 เกม มีคะแนนห่างจากโซนตกชั้น 2 คะแนนเท่านั้น ทำให้ต้องการคะแนนอย่างหนัก
ส่วนทีมเยือนมีอยู่ 32 คะแนน ลูกได้เสีย +6 จากการลงสนาม 23 เกม แทบจะไม่ต้องลุ้นอะไรแล้ว แต่ก็ยังไม่การันตีรอดตกชัน เมื่อมีคะแนนห่างจากโซนดังกล่าว 9 เกม กับเกมที่เหลือให้เล่น 7 เกม
ผลงานของชลบุรี 5 เกมท้าย (ชนะ 1 , เสมอ 2 , แพ้ 2) โดยชนะได้ในเกมล่าสุด เมื่อเปิดบ้านชนะสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2-0 ทีมมีตัวเลือกไม่ได้แตกต่างจากเดิม เมื่ออี ชาน-ดง ยังบาดเจ็บ และพิทักษ์ พิมแป้ ติดโทษแบน
ฟอร์มการเล่นของราชบุรี 5 เกมท้าย (ชนะ 2 , เสมอ 1 , แพ้ 2) แพ้มา 2 เกมติดต่อกัน กับเกมที่พบกับสุโขทัย เอฟซี และทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมนี้ยังไม่สามารถใช้งานเอ็นจีวา และฟาอิค โบลเกียห์ ได้เหมือนเดิม
สุโขทัย เอฟซี VS นครปฐม ยูไนเต็ด
เวลา : 19.00
สนาม : ทะเลหลวงสเตเดี้ยม
คู่ปิดท้ายของวันนี้ เวลา 19.00 น. เป็นการพบกันระหว่างสุโขทัย เอฟซี อันดับ 11 ของตารางคะแนน กับนครปฐม ยูไนเต็ด อันดับ 8 ของลีก
เจ้าบ้านเก็บได้ 26 คะแนน ประตูได้เสีย -15 จากการลงสนาม 23 เกม มีคะแนนห่างจากโซนตกชั้น 3 คะแนนเท่านั้น ส่วนนครปฐมมีอยู่ 29 คะแนน ลูกได้เสีย -4 จากการลงสนาม 23 เกม มีคะแนนห่างจากโซนดังกล่าว 6 คะแนน
ผลงานของสุโขทัย 5 เกมท้าย (ชนะ 2 , เสมอ 1 , แพ้ 2) เกมล่าสุดบุกไปแพ้การท่าเรือ เอฟซี ด้วยสกอร์ 1-0 กับตัวเลือกในการลงสนามเกมนี้ พร้อมจัดเต็มได้ทุกตำแหน่ง กับระบบ 4-4-2
ฟอร์มการเล่นของทีมเยือน 5 เกมหลังสุด (ชนะ 2 , เสมอ 1 , แพ้ 2) เกมล่าสุดเปิดบ้านเอาชนะลำพูน วอริเออร์ ด้วยสกอร์ 1-0 เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งานวัฒนชัย สระทองจันทร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม เนื่องจากติดโทษแบน